สอนใจตนเอง
จากครอบครัวที่เคยพร้อมหน้า...อบอุ่นด้วยตา ย่า ยาย ญาติมิตรสนิทกาย จำต้องจากมาอยู่ไกลในเมืองหลวง ต้องโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจไกลบ้านที่รัก ต้องผจญปัญหาสิ่งต่าง ๆ มากมายด้วยตัวเอง ทำให้นึกถึงพรผู้อาวุโสที่สั่งสมมาจากวันวาน เป็นพรที่น่าเคารพ และควรค่าแก่การถ่ายทอดสู่ผู้เป็นที่รัก.. พร ที่ว่า... "เป็นผู้น้อยที่ยิ่งใหญ่หรือผู้ใหญ่ที่ดื้อด้าน" เพราะเราอายุยังน้อย เราจึงยังมีโอกาสผิดพลั้ง... อีกนับครั้งไม่ถ้วน... กว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่ กว่าเราจะแก่เฒ่า... ยังเหลือเวลาที่ผิดพลาดอีกมากมายนัก
ดังนั้น ตัวตนของเรา จึงอย่าได้ผยอง อวดตัวว่ายิ่งใหญ่ หากตัวเรานั้นแก่เฒ่าลงแล้ว ยังผิดพลาดซ้ำซาก เรื่องเก่า... เราก็ยังคงเป็นได้แค่เด็กเมื่อวานซืน... แม้อายุเราจะ 60 ปี ก็ตาม จงตระหนักไว้เถอะว่า การที่เราอายุยังน้อยนั้นเป็นสิ่งที่ดี... ยิ่งเราเป็นผู้น้อยก็ยิ่งดี เพราะเมื่อเราผิดพลาด... เรายังคงได้รับการอภัย... และมีโอกาสที่จะแก้ไขสิ่งเหล่านั้น
แต่หากวันใดวันหนึ่ง กาลเวลาที่ผ่านเราไปเนิ่นนาน เรายังคงนิ่งเฉย ถือตัวว่าเราถูก เราคือผู้ใหญ่ ผู้คงแก่กาลเวลา แต่ยังซ้ำซากในความผิดเดิม ๆ ยังคงเป็นผู้ยึดติดในความโง่เขลาของตัวเองว่าเรานั้นคิดถูกต้องเสมอ นั่นคือผลที่ตามเรามาจากการกระทำอันไร้ปัญญา ไร้สติ ไร้ซึ่งความอ่อนน้อมต่อจิตวิญญาณของโลกใบนี้ จักทำให้เราสูญเสียโอกาสที่จะเจริญเติบโต ขาดความคิดไตร่ตรอง ขาดผู้ที่ให้คำปรึกษา ขาดสติและปัญญา ขาดเพื่อนพ้องรักร่วมสหาย และทำให้เราขาดโอกาสที่ดีของเราเอง อันด้วยมาจากทิฐิจองหองของเราที่มีต่อผู้คนรอบข้าง อันมาจากความคิดว่าตัวเรานั้นถูกต้องเสมอ สุดท้ายแล้วก็เสียสิ้นซึ่งเวลาอันมีค่า เราก็ยังไม่เจริญปัญญาสักที ยังคงเป็นผู้คงแก่กาลเวลา แต่ไค้ความเข้าใจในความอ่อนน้อมที่มีคุณค่าอันลึกซึ่ง
หากเราไม่อยากผิดพลาดซ้ำซาก เป็นคนที่ผ่านล่วงเลยสารธารเวลามาอย่างไร้ประโยชน์ จงสอนใจตัวเองเสียดีกว่าให้สังคมมาสั่งสอน จงสอนใจตนเองให้เป็นนิจ รู้จักอ่อนน้อม รู้จักรับฟัง รู้จักคิด แยกแยะเหตุผล รู้จักสิ่งที่จะกระทำว่าถูกต้องหรือถูกใจเรา รู้จักชั่งน้ำหนักเหตุผล รู้จักหาข้อผิดพลาดของตนแล้วแก้ไขในข้อผิดพลาด... อย่าแก้ตัว....!