คุณเคยรู้สึกไหมว่าชีวิตช่างลำบาก คุณไม่อยากอยู่ในภาพแวดล้อมอย่างที่เป็นอยู่ คุณรู้สึกว่า ชีวิตนั้นเป็นทุกข์ อาชีพการงานไม่ได้ดั่งใจ อะไร ๆ ก็ผิดพลาดไปหมด เรื่องราวต่อไปนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลง "ทัศนคติ" ที่คุณมีต่อชีวิตคุณได้
ผมสนทนากับเพื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะทำงานสองอย่าง รายได้แต่ละเดือนหักลบรายจ่ายแล้ว ยังเหลือแค่พันกว่า แต่เขาก็มีความสุขมากแล้ว ผมแปลกใจมากที่เขามีความสุขขนาดนั้น เพราะเขามีรายได้น้อย ต้องประหยัดมัธยัสถ์จึงจะพอมีเหลือเลี้ยงดูคุณพ่อ คุณแม่สูงอายุ พ่อตาแม่ยาย ภรรยาและลูกสาวอีกสองคน ไหนจะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จุกจิกภายในครอบครัว เขาอธิบายให้ฟังว่า เป็นเพราะหลายปีก่อนเขาได้เห็นเหตุการณ์บางอย่างที่ประเทศอินเดีย ขณะนั้น เขาประสบปัญหาที่สาหัสมาก สภาพจิตใจตกต่ำ จึงไปเที่ยวอินเดีย เพื่อให้สบายใจขึ้น เขาได้เห็นกับตาผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่งถือมีดอีโต้ ตัดแขนขวาของลูกตัวเอง สายตาที่หมดหวังของผู้หญิงคนนั้น และเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเด็กอายุสี่ขวบ จนบัดนี้ยังวนเวียนอยู่ในใจเขามิรู้ลืม
คุณอาจจะถามว่า ทำไมแม่คนนั้นจึงต้องทำเช่นนี้ เป็นเพราะลูกของเธอซุกซนเกินไปหรือเปล่า หรือเป็นเพราะแขนของเด็กติดเชื้อ.. ไม่ใช่.. แม่คนนั้นทำไปเพื่อให้เด็กสามารถไปขอทานตามถนน แม่ผู้สิ้นหวังคนนั้นจงใจทำให้ลูกตัวเองพิการ เพื่อให้เขาสามารถออกขอทานตามท้องถนนได้ เพื่อนของผมคนนี้ตกใจแทบช็อค ขนมปังในมือของเขาที่เพิ่งกินได้ครึ่งก้อนตกหล่นลงพื้น ทันทีทันใดก็มีเด็ก ๆ ห้าหกคนกรูกันเข้ามา แย่งชิงขนมปังที่เลอะทรายบนพื้น เหมือนกับปฏิกิริยาอัตโนมัติเวลาผจญกับความหิวโหย
เขาตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว ไกด์ของเขาขับรถพาเขาไปยังร้านขนมปังที่ใกล้ที่สุด เขาเข้าไปในสองร้านของละแวกนั้น ขอซื้อขนมปังทั้งหมดในร้าน เจ้าของร้านขนมปังแปลกใจมาก แต่ก็ยินดีขายขนมปังท้งหมดให้เขา เขาใช้เงินทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งร้อยเหรียญ ซื้อขนมปังมาประมาณสี่ร้อยกว่าก้อน (ตกก้อนละไม่ถึง 25 เซนต์) แล้วใช้อีกหนึ่งร้อยเหรียญซื้อของใช้ประจำวัน และเขาก็นั่งบนรถบรรทุกที่บรรทุกขนมปังไว้เต็มคันรถ ขับไปบนถนน ขณะที่เขาแจกจ่ายขนมปังและของใช้ประจำวันให้กับเด็ก ๆ ซึ่งพิการเป็นส่วนใหญ่นั้น พวกเขาล้วนโค้งคำนับให้ด้วยความดีใจ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เคาคิดได้ว่า ทำไมคนเราจึงสามารถละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเองเพียงเพื่อชิ้นขนมปัง ราคาไม่ถึง 25 เซนต์
เขาเริ่มบอกตนเองว่าเขาโชคดีขนาดไหน เขามีร่างกายครบสามสิบสอง มีอาชีพการงาน มีครอบครัว มีโอกาสบ่นว่าอาหารชิ้นไหนดี อาหารชิ้นไหนไม่อร่อย มีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้า มีโอกาสครอบครองสิ่งของมากมายที่คนเหล่านี้ไม่มี
ตอนนี้ ผมเริ่มคิดได้และตระหนักได้ว่า ชีวิตของผมมันย่ำแย่จริงหรือ บางทีมันอาจไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นก็ได้ คุณละ บางทีเมื่อคุณรู้สึกว่า ชีวิตของตนกำลังย่ำแย่ ลองคิดถึงเด็กคนที่ต้องเสียแขนเพื่อเป็นขอทานคนนั้นดูสิ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความรู้สึกพอ ไม่ใช่มาจากการเติมเต็มสิ่งที่คุณต้องการ แต่มาจากการตระหนักว่า คุณมีมากมายและเพียงพอ
การมอบความรักทั้งหมดให้ผู้อื่น มิได้หมายความว่า เราจะได้รับความรักตอบกลับมาอย่างเท่าเทียมกัน อย่าหวังว่ารักผู้อื่น แล้วผู้อื่นจะรักตอบ จงสนใจแค่ให้ความนักนั้นเติบโตขึ้นในใจพวกเขา แต่ถ้าไม่เติบโตขึ้นเลย ก็จงพอใจกับความรักที่เติบโตขึ้นในใจของคุณเอง....