ปรีชาญาณ ของนกแก้ว
เรียบเรียงโดย คุณพ่อเชษฐา ไชยเดช

ที่อารามเก่าแก่แห่งหนึ่งบนภูเขาในประเทศธิเบต อธิการของอารามมีชื่อว่าไดมาลา ท่านปรารถนาจะฉลองครบรอบร้อยปีแห่งการก่อตั้งอารามในรูปแบบที่สร้างสรรค์ และเพื่อให้ฤาษีในอารามของท่านมีความสนุกสนาน ในขณะเดียวกันก็ได้รับความรู้มากขึ้นด้วย ท่านจึงจัดการแข่งขันที่ค่อนข้างแปลกขึ้นมาในหมู่คณะของท่าน เจตนาของท่าน ก็คือท่านต้องการจะสอนความจริงอันยิ่งใหญ่ฝ่ายจิตแก่ทุกคนในอาราม

  ชวนรำพึง
นักบุญเปโตรได้เตือนใจพวกเรา ในจดหมายฉบับแรกของท่าน "จงมีความถ่อมตนต่อกันเถิด เพราะพระเจ้าทรงต่อต้าน คนเย่อหยิ่งจองหอง แต่ประทานพระหรรษทาน แก่ผู้ถ่อมตน ดังนั้น จงถ่อมตนลงอยู่ใต้พระหัตถ์ทรงฤทธิ์ ของพระเจ้า เพื่อพระองค์จะได้ยกย่องท่าน เมื่อถึงเวลาอันควร" (1ปต 5:5-6)

 

 

ท่านได้มอบนกแก้วสามตัวให้กับฤาษี 3 องค์ ในอารามของท่าน และสั่งพวกเขาว่า "ใครก็ตามที่สามารถฝึกนกแก้วให้มีความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่มีคุณค่า ความจริงฝ่ายจิตและข้อคำสอนทางศาสนาได้ดีที่สุด จะได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งอธิการต่อจากท่าน" ฤาษี 3 องค์มีเวลา 6 เดือน ที่จะฝึกนกแก้ว

เมื่อเวลาที่กำหนดมาถึง ฤาษีทั้งอารามจำนวน 300 องค์ ได้มารวมตัวกันที่ห้องประชุมใหญ่ เพื่อชมและเป็นประจักษ์พยานในการแข่งขันที่จะเริ่มขึ้น ท่านไดมาลาเรียกไทซุง ผู้เข้าแข่งขันคนแรกเข้ามา หลังจากที่ได้โค้งคำนับด้วยความเคารพต่ออธิการ และสมาชิกในคณะแล้ว ไทซุงให้สัญญาณแก่นกแก้วของเราให้เริ่มการแสดง

ฤาษีทุกคนตกตะลึงเมื่อได้ฟังนกแก้วของไทซุงพูดอย่างคล่องแคล่ว ถึงคำสอนของศาสนาต่างๆ เจ้านกแก้วแสนรู้ยังได้บรรยายถึงปรีชาญาณของนักปราชญ์ ในสมัยโบราณและธรรมล้ำลึกฝ่ายจิตอื่นๆ

หลังจากใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อฟังความฉลาดรอบรู้ของเจ้านกแก้วแล้ว บรรดาฤาษีต่างปรบมือให้กับนกแก้วตัวนั้นด้วยความอัศจรรย์ใจ พวกเขาสรรเสริญไทซุงที่ได้ฝึกนกแก้วของตนมาเป็นอย่างดี

คนต่อมาคือหว่างซุง และเช่นเดียวกันทุกคนต้องประหลาดใจอย่างมาก เนื่องจากเจ้านกแก้วตัวนั้น เริ่มต้นแสดงความสามารถของมัน ด้วยการสวดภาวนาโดยขับร้องเพลงอาเวมารีอา หลังจากนั้น จึงได้พูดถึงงานเขียนของนักบุญออกัสติน นักบุญฮีลารี และแม้แต่บางส่วนของหนังสือซุมมาเทโอโลจิกาของท่านนักบุญโทมัส อไควนัส และเจ้านกน้อยยังขับร้องเพลงเตเดอุมเป็นบทสวดส่งท้าย เมื่อจบการบรรยายอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรอบรู้ของมัน ซึ่งใช้เวลาประมาณเกือบสองชั่วโมง ทันทีที่การแสดงจบลงเสียงปรบมือกราวใหญ่ของทุกคนในอารามก็ดังขึ้น

คนสุดท้ายคือหยังเจีย ทุกคนต่างคอยดูว่าเจ้านกตัวสุดท้ายจะแสดงอะไรที่เหนือกว่าเจ้านกสองตัวแรก พวกเขาต้องผิดหวังเมื่อพบว่าหลังจากที่หยังเจียให้สัญญาณแล้ว เจ้านกแก้วของเขาก็ยังคงเงียบ และไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว หลังจากนั้นสองนาที หยังเจียได้ประกาศว่าการแสดงความสามารถของนกแก้วของเขาจบลงแล้ว ในขณะที่ทุกคนรู้สึกผิดหวัง แต่สีหน้าของท่านอธิการกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แน่นอนท่านเข้าใจว่านกแก้วของหยังเจียต้องการจะแสดงอะไร

ฤาษีคนหนึ่งถามหยังเจียว่า "น้องรัก ความสามารถที่นกแก้วของเธอแสดงคือความเงียบหรือ?" "ใช่ครับ" หยังเจียตอบ พี่น้องอีกคนหนึ่งในอารามถามหยังเจียต่อไปว่า "เธอก็รู้ไม่ใช่หรือว่างานนี้เป็นงานสำคัญ แต่ดูเหมือนว่า เธอไม่ได้ฝึกนกของเธอเลย" หยังเจียตอบว่า "พี่ที่รัก จริงๆ แล้วนกแก้วของผมมีความรู้มากกว่าเจ้านกแก้วสองตัวแรก มันสามารถอธิบายคำสอนของแต่ละศาสนา นำมาเปรียบเทียบ และวิเคราะห์ได้ ไม่เพียงแต่ความรู้ทางศาสนาเท่านั้น เจ้านกแก้วตัวนี้ยังรอบรู้ในเรื่องของประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฯลฯ" แต่ฤาษีคนหนึ่งก็ขัดจังหวะขึ้นมาว่า "น้องรัก ถ้านกแก้วของเธอมีความสามารถมากมายอย่างที่เธอพูด ทำไมเวลาเธอบอกให้มันแสดงความสามารถมันจึงเงียบ พี่ไม่เห็นมันแสดงอะไรให้พวกเราดูเลย" หยังเจียอธิบายให้ทุกคนในอารามเข้าใจในที่สุดว่า "พี่น้องที่รัก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ผมฝึกให้นกแก้วของผมมีความสุภาพ แม้มันจะมีความรู้มาก"

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้คือหยังเจีย....

back

 

 

Free Web Hosting